เพิ่มเติม


      มหาชาติ เป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ของพระโพธิสัตว์ที่ได้เสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดรและเป็นพระชาติสุดท้ายก่อนจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสมพุทธเจ้าคนไทยรู้จักและคุ้นเคยกับมหาชาติมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยดังที่ปรากฏหลักฐานในจารึกนครชุมและในสมัยอยุธยาก็ได้มีการแต่งและสวดมหาชาติคำหลวงในวันธรรมสวนะส่วนการเทศนมหาชาติเป็นประเพณีที่สำคัญในทุกท้องถิ่นและมีความเชื่อกันสืบมาว่าการฟังเทศน์มหาชาติจบภายในวันเดียวจะได้รับอานิสงส์มาก

              ทศบารมีในมหาชาติ
ทานบารมี          :  ทรงบริจาคทรัพย์สินพระกุมารทั้งสองและพระมเหสี
ศีลบารมี            :  ทรงรักษาศีลอย่างเคร่งครัดระหว่างทรงผนวชอยู่ ณ เขาวงกต
เนกขัมมบารมี    :  ทรงครองเพศบรรพชิตตลอดเวลาที่ประทับณเขาวงกต
ปัญญาบารมี      :   ทรงบำเพ็ญภาวนามัยปัญญาตลอดเวลาที่ทรงผนวช
วิริยาบารมี         :   ทรงปฏิบัติมิได้ย่อหย่อน
สัจจบารมี          :   ทรงลั่นพระวาจายกกุมารให้ชูชกเมื่อพระกุมารหลบหนีก็ทรงติดตามให้
ขันติบารมี          :  ทรงอดทนต่อความยากลำบากต่าง ๆ ขณะที่เดินทางมายังเขาวงกตและ
                           ตลอดเวลาที่ประทับ ณ ที่นั่นแม้แต่ตอนที่ทอดพระเนตรเห็นชูชกเฆี่ยนตี  
                           พระกุมารอย่างทารุณพระองค์ก็ทรงข่มพระทัยไว้ได้       
เมตตาบารมี      :  เมื่อพราหมณ์เมืองกลิงคราษฎร์มาทูลขอช้างปัจจัยนาคเนื่องจากเมือง
                           กลิงคราษฎร์ฝนแล้งก็ทรงพระเมตตตาประทานให้และเมื่อชูชกมาทูลขอ
                           สองกุมารอ้างว่าตนได้รับความลำบากต่างๆพระองค์ก็มีเมตตาประทานให้ด้วย
อุเบกขาบารมี    :   เมื่อทรงเห็นสองกุมารถูกชูชกเฆี่ยนตีวิงวอนให้พระองค์ช่วยเหลือทรงบำเพ็ญ
                          อุเบกขาคือทรงวางเฉยเพราะทรงเห็นว่าได้ประทานเป็นสิทธิ์ขาดแก่ชูชกไป                         
อธิษฐานบารมี   :   คือทรงตั้งมั่นที่จะบำเพ็ญบารมีเพื่อให้สำเร็จโพธิญาณาเบื้องหน้าก็มิได้ทรง
                           ย่อท้อจนพระอินทร์ต้องประทานความช่วยเหลือต่าง ๆ เพราะพระทัยอันแน่ว
                           แน่ของพระองค์
                               
        การกลับชาติมาเกิดของบุคคลในมหาชาติ
   พระเวสสันดร             กลับชาติมาเกิดเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ
   พระเจ้ากรุงสญชัย      กลับชาติมาเกิดเป็นพระเจ้าสุทโทนะ
   พระนางผุสดี              กลับมาเกิดเป็นพระนางสิริมหามายา
   พระนางมัทรี              กลับชาติมาเกิดเป็นพระนางยโสธราพิมพา
   พระชาลี                    กลับชาตมาเกิดเป็นพระราหุล
   พระกัณหา                 กลับชาติมาเกิดเป็นนางอุบลวรรณาเถรี
   ชูชก                          กลับชาติมาเกิดเป็นเทวทัต
   นางอมิตตดา             กลับชาติมาเกิดเป็นพระนางจิญจมาณวิกา
   พระอจุตฤๅษี             กลับชาติมาเกิดป็นพระสาลีบุตร
   พรานเจตบุตร            กลับชาติมาเกิดเป็นพระฉันนเถระ
   พระเสสุกรรม             กลับชาตมาเกิดเป็นพระโมคคลลานะ

       เครื่องกัณฑ์เทศน์
                        คือ ของที่ใส่ในกระจาดเป็นเครื่องกัณฑ์ที่มีขนมต่างๆ อาหารแห้งมักมีกล้วยทั้งเครือ มะพร้าวทั้งละลายและอ้อยทั้งต้นตามคติ มหาชาติที่ถือว่าถูกแบบแผนนั้นมักจัดเป็นจตุปัจจัย คือ ผ้าไตร สรรพาหาร ผลไม้  เสื่อสาดอาสนะ และไม้กวาด เลื่อย สิ่ว ขวาน  ยา และเครื่องยาต่างๆ  น้ำผึ้ง น้ำตาล อนุโลมในคิลานปัจจัยบริขาร”ส่วนวัตถุปัจจัยได้แก่ เงินเหรียญติดเทียน ต้องจัดเตรียมเครื่องบูชากัณฑ์เทศน์มีเทียนประจำกัณฑ์เล่มหนึ่งขนาดใหญ่  ปักไว้ข้างอาสนะสงฆ์ กัณฑ์ทั้ง ๑๓ กัณฑ์ ที่เรียกว่า “ผ้าพระบฎ” หรือ“ภาพพระบฎ” มีพานหมากหมาก หรือขันใส่หมากพลูไส้ถวายพระด้วย พานหมากหรือขันใส่หมากนี้ บางแห่งก็ประดับประดาสวยงามเรียกว่า“หมากพนม”  สำหรับเทียนพระคาถาพันหนึ่งนั้นจะแบ่งปักบนปากขันสาคร ทำน้ำมนต์เท่าจำนวนพระคาถาของแต่ละกัณฑ์มหาชาติทั้งสิบสามกัณฑ์

      จำนวนพระคาถาตามลำดับคือ
๑)    กัณฑ์ทศพร                   ๑๙           พระคาถา
๒)    กัณฑ์หิมพานต์          ๑๓๔           พระคาถา
๓)    กัณฑ์ทานกัณฑ์         ๒๐๙           พระคาถา
๔)    กัณฑ์วนปเวสน์           ๕๗           พระคาถา
๕)    กัณฑ์ชูชก                   ๗๙            พระคาถา
๖)    กัณฑ์จุลพล                 ๓๕            พระคาถา
๗)    กัณฑ์มหาพน              ๘๐            พระคาถา
๘)    กัณฑ์กุมาร                ๑๐๑            พระคาถา
 ๙)    กัณฑ์มัทรี                    ๙๐           พระคาถา
๑๐)    กัณฑ์สักกบรรพ          ๔๓           พระคาถา
๑๑)    กัณฑ์มหาราช              ๖๙          พระคาถา
๑๒)    กัณฑ์ฉกษัตริย์            ๓๖          พระคาถา
๑๓)    กัณฑ์นครกัณฑ์          ๔๘          พระคาถา